วัดบางกุ้ง ในปี 2566 ล่าสุด วัดนักรบไทย สายมูต้องมาขอพร!
“วัดบางกุ้ง” ในวันที่มีการระบาดอย่างหนักของ โควิด-19 ค่ายบางกุ้ง ก็เงียบเหงาไปหลายเดือน ทางวัดบางกุ้งก็ไม่เว้น จำเป็นต้องปิดไปเพื่อลดการระบาดของโรค แต่หลังจากการประกาศผ่อนคลายกิจกรรมทางสังคมจากภาครัฐ แหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ได้กลับมาเปิดอีกครั้งในเดือนตุลาคม 2564 ยาวมาถึง เดือนมิถุนายน 2566 ทางวัดยังคงเปิดให้เข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธ์ตามปกติ ถึงแม้ผู้คนจะลดลงไปบ้างเพราะ วัดจุฬามณี และ วัดนางตะเคียน กำลังมาแรงแซงทางโค้งมากๆ ทาง บ้านสวนนวลตา ได้ไปแวะเยี่ยมเยียนเพื่อดูว่ามีนักท่องเที่ยวบ้างหรือไม่ ซึ่งก็สามารถสร้างเซอร์ไพรส์ได้พอสมควร เพราะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาตลอดช่วงบ่ายในวันพุธ ซึ่งเป็นวันธรรมดาที่ปกติไม่ค่อยมีผู้คนท่องเที่ยว เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวเช่น ที่พักอัมพวาต่างๆและร้านค้าต่างๆที่ขายตามตลาดน้ำกลับมาคึกคักมากขึ้น เราได้ทำรีวิวเก็บทั้งภาพและวิดีโอบรรยากาศของค่ายบางกุ้งมาให้ชมกันครับ
ในวิดีโอคลิปสั้นๆของวัดบางกุ้งนี้เราได้ถ่ายบรรยากาศรอบๆโบสถ์เพื่อให้เห็นว่ามีผู้คนแวะเวียนมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตลอดช่วงบ่ายที่เราแวะไปชม ไปดูกันเลยครับ
มาเริ่มกับภาพแรกกันเลยครับ ในภาพแรกนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นที่ค่ายบางกุ้ง เพราะทางวัดบางกุ้งได้สร้างประตูทางเข้าออกขึ้นมาใหม่และปิดทางเข้าเก่าให้เป็นป้ายสถานที่แทน ในภาพที่2คือที่จอดรถภายในเพิ่งทำเสร็จสมบูรณ์พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน สามารถรองรับรถของนักท่องเที่ยวได้อย่างน้อย 100คัน เลยทีเดียวไม่ว่ารถจะใหญ่ขนาดไหนก็มีพื้นที่รองรับได้อย่างสะดวกสบาย
มาต่อกันเลยในภาพแรกนั้นเป็นส่วนของร้านค้าต่างๆที่ตั้งอยู่ตรงข้ามวัดบางกุ้งซึ่งทยอยกลับมาเปิดในปี 2565 นี้ ขายสินค้าผลผลิตจากสวนของชาวสมุทรสงคราม และภาพถัดมาคือศาลพระเจ้าตากสินมหาราชที่ผู้คนไปสักการะบูชาไหว้ขอพร และต่อมาเป็นภาพของหุ่นจำลองของชาวแม่กลองมาไหว้พระถวายอาหารให้กับหลวงพ่อนิลมณี ภายในวัดบางกุ้งมีต้นโพธ์ขนาดใหญ่อายุเก่าแก่กว่า 100ปี ปรกคลุมโบสถ์เอาไว้ทำให้รากของมันกลืนโบสถ์ไปโดยปริยาย และภายในของโบสถ์ยังคงความสวยงามและความขลังของโบสถ์เก่าแก่แห่งวัดบางกุ้งและเป็นที่บูชาของผู้คนทั่วไป
ในส่วนของคอกม้าที่ทางวัดเลี้ยงไว้ยังคงมีม้าอยู่เหมือนเดิมแต่ดูเหมือนจะตัวเล็กและน้อยลงไป ค่าอาหารสัตว์ยังคงราคาเดิมที่ 10บาท เหมาะกับการพาเด็กๆมาเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ แต่ก็ควรระมัดระวังอย่าเอาศรีษะไปใกล้กับปากของม้าเหล่านี้เพราะมันอาจจะกัดหูหรือใบหน้าให้รับบาดเจ็บได้ และท้ายที่สุดนี้ ลุงป้อมและลุงตู่ยังคงตั้งการ์ดสูงเช่นเดิมเพิ่มเติมคือบาดี้การ์ดข้างกายท่านละคน ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านบทความของ บ้านสวนนวลตา ที่พักริมน้ำอัมพวา สุดชิล คลิกเลย ราคาพิเศษ
ประวัติของ วัดบางกุ้ง และ ค่ายบางกุ้ง สมุทรสงคราม
ประวัติความเป็นมาของ วัดบางกุ้ง นั้นย้อนไปในอดีตได้กว่า 200-300ปี เลยทีเดียว เป็นวัดเก่าเก่าตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรสงครามในตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที สันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นมาย้อนไปตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาเป็นเมืองราชธานี ประวัติมีอยู่ว่า วัดบางกุ้งถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ตอนปลายกรุงศรี เป็นวัดสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย เมื่อปี 2308 กองทัพทหารพม่ายกทัพเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าเอกทัศน์จึงสั่งให้หัวเมืองปากใต้ยกทัพเรือมาตั้งค่ายที่วัดแห่งนี้และได้สร้างกำแพงกำแพงล้อมวัดบางกุ้งที่ตำบลบางกุ้งเมืองสมุทรสงครามไว้เพื่อป้องกันการบุกของทหารพม่า ชาวบ้านจึงเรียกว่า “ค่ายบางกุ้ง” ต่อมากองทัพพม่าได้ล่องเรือยกทัพมาตามแม่น้ำแม่กลองและบุกมาจนถึงค่ายบางกุ้ง แต่เนื่องจากจำนวนทหารที่มากกว่ามากกองทัพของกรุงศรีอยุธยาไม่สามารถสู้ได้ค่ายบางกุ้งจึงแตกพ่ายไปในที่สุด หลังจากกรุงศรีแตกในปี2310 “วัดบางกุ้ง” ได้ถูกทิ้งร้างไปนานหลายปี ต่อมาเมื่อพระเจ้าตกสินมหาราชได้สถาปนากรุงธนบุรีเสร็จ ท่านจึงโปรดให้คนจีนรวมพรรคพวกเพื่อตั้งเป็นกองทหารเพื่อคอยเฝ้ารักษาค่ายบางกุ้ง ซึ่งตอมาชาวบ้านจึงได้อีกหนึ่งชื่อว่า “ค่ายจีนบางกุ้ง” หลังจากเสียกรุงศรีไปประมาณ 8 เดือน ในปี 2311 กองทัพทหารพม่า นำโดยเจ้าเมืองทวายได้ยกพลบกและทัพเรือเพื่อมาล้อมค่ายบางกุ้งอีกครั้ง แต่ทหารจีนก็สู้ไม่ถอยจนป้องกันค่ายบางกุ้งไว้ได้ถึงแม้จะมีกำลังทหารที่น้อยกว่า ต่อมาเจ้าเมืองสมุทรสงคราม จึงส่งหนังสือกราบทูลไปยังพระเจ้าตากที่กรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้ทราบเรื่องจึงจัดกองทัพใหญ่ยกทัพมาตีกองทัพพม่าจนแตกพ่ายไป เมื่อเวลาผ่านไปอีก 6ปี ในปี 2317 พระเจ้าตากได้นำทัพเรือออกเดินทางไปยัง ตำบลบางแก้ง จังหวัดราชบุรีและได้แวะหยุดพักทานอาหารกลางวันที่ค่ายบางกุ้งแห่งนี้ จัดได้ว่าวัดบางกุ้งนั้นมีประวัติและเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นบ่อยครั้งในประวัติศาสตร์ชาติไทย
นอกเหนือจากประวัติความเป็นมาแล้ว วัดบางกุ้งมีความโดดเด่นที่พระอุโบสถเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 200ปี ซึ่งถูกรากไม้ขนาดใหญ่ปกคลุมทั้งหลังโดยต้นโพธิ์ ต้นไกร และ ต้นกร่าง จนถูกจัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและอันซีนของประเทศไทย ที่ไม่ว่าคนไทยหรือชาวต่างชาติมาเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาจะต้องแวะมาไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิขอพรก่อนเดินทางต่อ ตัวอาคารพระอุโบสถถูกสร้างขึ้นจากอิฐและปูนไม่ปรากฏช่อฟ้าใบระกาดั่งเช่นวัดไทยอื่นๆ ซึ่งมักมีเครื่องลำยอง ภายในโบสถ์มี “หลวงพ่อนิลมณี” มีอีกนามว่า “หลวงพ่อดำ” หรือ “หลวงพ่อโบสถ์น้อย” ที่ชาวแม่กลองเรียกกันสถิตอยู่ภายใน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทรงปางมารวิชัยขนาดใหญ่ สันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นตอนปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ยิ่งไปกว่านี้ภายในยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่ บอกเร่าเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ นอกเหนือจากโบสเก่าแก่แล้ว วัดแห่งนี้ยังมีจุดเด่นที่มีการจำลองรูปปั้นนักมวยไทยในท่าการต่อสู้ต่างๆและมีเครื่องบินเก่านำมาตั้งโชว์เป็นมุมถ่ายรูปให้กับนักท่องเที่ยวแวะเก็บภาพเป็นที่ระลึก ยิ่งไปกว่านั้นทางวัดมีสวนสัตว์ขนาดเล็กตั้งอยู่ทั้ง 2ฝั่ง ขอวัดบางกุ้ง มีสัตว์หลากหลายชนิด เช่น กวาง ลิง ม้า อูฐ ปลาช่อนอเมซอน เต่า ให้เด็กๆได้เรียนรู้กันอีกด้วย
ที่จอดรถภายในวัดบางกุ้ง จุดเช็คอิน ลุงตู่และลุงป้อม
ในส่วนภาพถ่ายในชุดนี้ได้ถูกถ่ายไว้ตั้งแต่ปี 2563 แต่ยังคงเก็บไว้ในบทความ เพื่อให้ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของวัดบางกุ้งตั้งแต่ในอดีตถึงปัจจุบัน ผู้เข้ามาอ่านจะได้เห็นว่าแต่ก่อนวัดบางกุ้งเป็นเช่นไร อย่างเช่นที่จอดรถที่ทางวัดทำขึ้นมาใหม่เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้รองรับรถได้มากยิ่งขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองลอง ในช่วงเวลานั้นลูงตู่และลุงป้อมยังดูใหม่มากๆเพราะทางวัดบางกุ้งเพิ่งนำมาตั้งไว้เป็นมุมถ่ายรูปน่ารักๆและอย่าลืมแวะเช็คอินเพื่อช่วยโปรโมทวัดบางกุ้งให้เป็นที่รู้จักของผู้คนมากยิ่งขึ้นด้วยละครับ
เที่ยวชมคอกม้าในแค้มป์บางกุ้งสมุทรสงคราม
กาลเวลาย่อมเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆไปเสมอ แต่ก่อนนั้นในคอกม้ามีม้าวิ่งไปมาให้นักท่องเที่ยวชมกว่า 10 ตัว แต่ตอนนี้มีเหลือเพียง 5-6 ตัว เท่านั้นทางเราก็ไม่แน่ใจว่าพวกมันหายไปไหน แต่ที่แนๆห้องน้ำในค่ายบางกุ้งพัฒนาขึ้นมาก ใหม่และสะอาดสะอ้านน่าเข้าไปใช้เป็นอย่างมาก อันนี้ต้องขอชมจากใจจริงเพราะห้องน้ำสะอาดนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวตลอดมา
ท่าการต่อสู้ต่างๆของหุ่นทหารใน วัดบางกุ้ง
สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยของค่ายบางกุ้งนั้นก็คือ หุ่นจำลองการต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่ใช้ต่อกลอนกับผู้มารุกรานจากทหารพม่าเมื่อสมัยที่ค่ายบางกุ้งนั้นโดนโจมตีอย่างหนักและได้ทหารกล้าทั้งชาวไทยและชาวจีนใช้ชีวิตแลกมาเพื่อการธำรงอยู่ของประวัติศาตร์ชาติไทยในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช ทางวัดได้จัดทำหุ่นจำลองท่าการต่อสู้ด้วยแม่ไม้มวยไทยที่สามารถนำมาใช้สู้กับทหารพม่าที่มีดาบยาวทั้งมือซ้ายและมือขวา ท้ายที่สุดนี้ทางบ้านสวนนวลตา ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านบทความอัพเดทความเป็นไปของวัดบางกุ้ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ชาติไทยที่คนไทยทุกคนควรจะภูมิใจกับสิ่งที่ยังคงอยู่ให้ลูกหลานได้เห็นและศึกษาในปัจจุบัน ถ้าหากท่านไดสนใจหาที่พักติดริมน้ำแม่กลองสวยๆบรรยากาศดีมีสระว่ายน้ำระบบเกลือให้เล่นพักผ่อนระหว่างมาเที่ยวจังหวัดสมุทรสงคราม เราขอแนะนำ บ้านสวนนวลตา รีสอร์ท เป็นอีกหึ่งที่พักแนวเงียบสงบเป็นส่วนตัว้บ้านพักเป็นหลังใหญ่สบายสะอาดมีที่จอดรถใกล้บ้านพักบริการดีเยี่ยมสามารถกดไปที่รูปภาพเพื่อดูข้อมูลและสอบถามราคาโปรโมชั้นได้ คลิกเลย!
ข่าวประชาสัมพันธ์ และ กิจกรรมต่างๆจากวัดบางกุ้ง
วัดบางกุ้งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่มีการจัดกิจกรรมต่างๆตลาดทั้งปีไม่ว่าจะเป็นพิธีบูชาหลวงพ่อนิลมณีหรือพิธีบูชาพระเจ้าตากสินมหาราช แต่มีอีกกิจกรรมที่กำลังมาแรงในยุคสมัยของผู้คนที่ชอบดูแลสุขภาพ นั่นก็คือกิจกรรมวิ่งมาราธอน ซึ่งจะมีการจัดบางกิจกรรมค่ายบางกุ้งรันขึ้นมาทุกปีในปี 2565 นี้ จะมีการจัดการวิ่งมาราธอนที่วัดบางกุ้งเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวจังหวัดสมุทรสงครามมากยิ่งขึ้น
กิจกรรม ค่ายบางกุ้ง รัน ครั้งที่4 วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม 2565
ข่าวดีสำหรับผู้ที่รักการดูแลสุขภาพและชอบวิ่งมาราธอน ทางวัดบางกุ้งจะมีการจัดการวิ่งฮาล์ฟมาราธอนขึ้นในวันที่อาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม 2565 ซึ่งมีให้เลือกตามความฟิตของแต่ละคนตั้งแต่ 3/5/13/24 กิโลเมตร ตามความต้องการของนักวิ่ง และจะเปิดรับสมัครนักวิ่งในวันพุธที่ 1 มิถุนายน 2565 สามารถสมัครได้จากเพจบางกุ้งรันที่เราได้แนบลิ้งค์ไว้ให้ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยครับ
คำถามที่ถามบ่อย
ค่ายบางกุ้งเปิดตั้งแต่ 8.00 – 18.00น ของทุกวันครับ เริ่มตั้งวันที่ 13 พฤษภาคม 2566 ยาวไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2566 วัดบางกุ้งเปิดให้เข้าสักการะหลวงพ่อนิลมณีตลอด 24 ชั่วโมงครับ
ตั้งแต่วันที่ 10 พถษภาคม 2566 ทาง วัดบางกุ้ง เปิดให้เข้าตอนกลางคืนตลอด 24 ชม เนื่องจากมีผู้ถูกรางวัลที่ 1 จากการขอพรจากหลวงพ่อนิลมณี ณ วัดบางกุ้ง จึงมีผู้คนสายมูเดินกันมาขอพรพร้อมความหวังและความเชื่อที่จะได้พลังแห่งโชคลาภ ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเวลาปกติ วัดบางกุ้งเปิดให้เข้าไปเยี่ยมชมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ ตามปกติตั้งแต่เวลา 8.00 – 18.00น. ทุกวัน
เส้นทางมายังวัดบางกุ้งนั้นไม่ยากเลยครับ ให้ขับมาเส้น ธนบุรี – ปากท่อ ตรงมาตามทางมาเรื่อยๆจะพบกับวงเวียนแรกให้เลี้ยวซ้ายจะมีป้ายบอกทางไปยังวัดบางกุ้ง พอเลี้ยวซ้ายแล้วเราจะข้ามสะพานสมเด็จพระศรีสุริเยนทร์ แล้วจะพบกับ 3 แยก ให้สังเกตุ 7/11 อยู่ซ้ายมือ ให้เลี้ยวขวาแล้วตรงไปตามทางเรื่อยๆ อีกประมาณ 5นาที ก็จะพบกับวัดบางกุ้งอยู่ซ้ายมือ หรือ ตาม Google Map มาตามลิ้งค์ได้เลยครับ
เบอร์ติดต่อ วัดบางกุ้ง 034-752-847
ลุงทั้งสองท่านจะอยู่ใกล้กับคอกม้าในวัดบางกุ้งครับ
ทางเราแนะนำให้เยี่ยมชมช่วงเช้า8.00-11.00น เพื่อหนีกรุ๊ปทัวร์ครับ
จากบ้านสวนนวลตาไปยังค่ายบางกุ้งไม่ใกลครับ ใช้เวลาเพียง10นาที โดยประมาณด้วยรถส่วนบุคคล
ข้อควรระวังระหว่างเยี่ยมชมถ่ายรูปกับม้าที่อยู่ในคอกภายในค่ายบางกุ้ง คือ อย่าเอาหัวหรือมือยื่นเข้าไปใกล้ปากของพวกมันเด็ดขาดเพราะพวกมันกัดแรงมาก เคยมีคนโดนกัดหูขาดเพราะฉะนั้นต้องระวังนิดนึงครับ